การเยี่ยมชมที่น่าเสียใจ

มุมมองของเฮนรี่

ขณะที่รถแท็กซี่ขับเข้าใกล้บ้านของพ่อกับแม่ หัวใจผมก็เริ่มเต้นระรัว ผมประหม่า ใช่เลย และไม่แน่ใจว่าการมาเยี่ยมครั้งนี้จะเป็นอย่างไร

นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มาเยี่ยมท่านทั้งสอง

ผมสงสัยว่าพ่อจะอยากเห็นหน้าผมด้วยซ้ำหรือเปล่า

พ่อจะยอมรับผมไหม พ่อจะยอมรับผมกลับมาเป็นลูกหรือเปล่า พ่อจะเข้าใจไหมว่าผมเป็นเกย์และมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พ่อจะเห็นไหมว่านี่คือตัวตนของผม การเป็นเกย์มันรู้สึกเหมือนเป็นตัวของตัวเอง... รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน

เมื่อแท็กซี่จอดเทียบหน้าบ้านพ่อแม่ผม อาการใจเต้นรัวก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า ผมลงจากรถแล้วจ่ายเงินให้คนขับ

ผมถือของที่ซื้อมาแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังระเบียงหน้าบ้าน

ผมหยุดชะงัก

สูดหายใจเข้าลึกๆ

กดกริ่งประตู

แล้วผมก็รอ

ครู่ต่อมา ประตูก็เปิดออก

แม่ของผมยืนอยู่ที่ประตู ดวงตาคู่โตของท่านจ้องมองผมด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด พร้อมกับเสียงหอบหายใจด้วยความตกใจหลุดออกมาจากริมฝีปาก นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เจอท่านหลังจากที่พ่อไล่ผมออกจากบ้าน

แม่ดูแก่กว่าเมื่อหกปีก่อนที่ผมเจอครั้งสุดท้าย และมันค่อนข้างเจ็บปวดที่ผมไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อเห็นช่วงเวลาที่แม่แก่ตัวลง

“เฮนรี่!” แม่ร้องอุทานแล้วโผเข้ามากอดผม “โอ้ ลูกแม่ แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน”

“ผมคิดถึงแม่มากกว่าอีกครับ” ผมกอดท่านแน่นพร้อมกับกะพริบตาไล่น้ำตาที่รื้นขึ้นมา “ผมคิดถึงแม่ใจจะขาดเลยครับแม่”

หลังจากกอดกันอยู่ครู่ใหญ่ เราก็ผละออกจากกัน

“ลูกเป็นยังไงบ้าง” ท่านถามด้วยความเป็นห่วง พลางสำรวจมองผม “ลูกดูโทรมมากเลยนะ ได้กินข้าวบ้างไหมเนี่ย โอ้ แม่ไม่น่าปล่อยให้ลูกออกไปเผชิญโลกตามลำพังเลย แม่เป็นแม่ที่แย่จริงๆ”

“แม่ครับ ไม่เป็นไรนะ” ผมปลอบ “ผมสบายดี แม่ไม่เห็นเหรอครับว่าผมแข็งแรงดีแค่ไหน ผมไปยิมทุกวัน สุขภาพดีด้วยครับ อีกอย่าง ที่พ่อต้องไล่ผมออกจากบ้านมันไม่ใช่ความผิดของแม่สักหน่อย ผมอยากให้แม่รู้นะครับว่าผมไม่ได้โทษแม่... หรือโทษพ่อเลย โอเคไหมครับ”

ท่านพยักหน้า “โอเคลูก เข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวแม่จะทำมื้อค่ำให้”

“นี่สำหรับแม่ครับ” ผมยื่นของที่ซื้อมาให้ท่าน “พ่อไปไหนเหรอครับ”

“ไปตกปลาน่ะ” แม่ตอบ พลางเดินลึกเข้าไปในห้องแล้ววางของที่ผมให้ไว้บนโต๊ะ “เดี๋ยวก็คงกลับแล้วล่ะ นั่งพักก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่ไปเตรียมมื้อค่ำก่อน”

แล้วท่านก็หายเข้าไปในครัว

ผมมองไปรอบๆ บ้านขณะนั่งลงบนโซฟา ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมอย่างที่ผมจำได้... โต๊ะกาแฟ ชั้นหนังสือที่เต็มไปด้วยนิยายเล่มโปรดของแม่ แจกันดอกไม้สดบนโต๊ะข้างๆ รูปครอบครัวบนผนัง เก้าอี้อาร์มแชร์ตัวเก่าที่พ่อชอบนั่ง พรมที่อยู่ตรงนั้นมานานเท่าที่ผมจำความได้ ผ้าม่านลายดอกไม้ที่คุ้นตา และหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามา

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมกับตอนที่ผมจากมา ราวกับถูกแช่แข็งไว้ในกาลเวลา แต่กลับเปี่ยมไปด้วยความทรงจำและความรู้สึกเก่าๆ ที่หวนคืนมาขณะที่ผมนั่งอยู่ตรงนั้น

แล้วผมก็ได้ยินเสียงประตูเปิด

“ที่รัก ผมกลับมาแล้ว!” ผมผุดลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินเสียงพ่อ “ทายสิว่าเกิดอะไรขึ้น เมียของแรนดี้...” เสียงพ่อขาดหายไป และหยุดชะงักทันทีที่เห็นผม

"เอ่อ... สวัสดีครับ... พ่อ" ผมทักทายอย่างเงอะงะ

ผมยังคงเห็นความเกลียดชังในดวงตาของพ่อ ความรังเกียจ ความดูแคลน และความผิดหวังอย่างน่าเศร้า มันยังคงอยู่ในดวงตาของพ่อ... เหมือนกับเมื่อหกปีก่อนตอนที่ท่านรู้เรื่องรสนิยมทางเพศของผม

แม่ออกมาจากครัว “ที่รักคะ” ท่านพูดอย่างประหม่า และผมก็เห็นได้ว่าท่านเองก็กลัวว่าพ่อจะมีปฏิกิริยาอย่างไร “เฮนรี่มาหาค่ะ”

“ฉันไม่มีลูก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงรังเกียจ เน้นย้ำทุกถ้อยคำ “ลูกชายฉันตายไปเมื่อหกปีที่แล้ว”

คำพูดของพ่อทิ่มแทงเข้ามาในใจผม ทำร้ายทุกอณูของร่างกาย

จากนั้นพ่อก็ทำท่าจะเดินผ่านเพื่อขึ้นไปชั้นบน แต่ผมขวางทางเขาไว้

“ผมทำอะไรผิดเหรอครับ” ผมถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและสั่นเครือ “ทำไมพ่อถึงเกลียดผมขนาดนี้ ทำไมพ่อถึงรักผมเหมือนพ่อคนอื่นๆ ไม่ได้ ห๊ะ ผมทำอะไรผิดนักหนาถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทำไมพ่อถึงยอมรับความจริงที่ว่านี่คือตัวตนของผมไม่ได้”

“อยากรู้ไหมว่าทำไม ทุกครั้งที่ฉันมองหน้าแก ฉันเห็นแต่ความล้มเหลวของตัวเอง!” พ่อตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “การมีอยู่ของแกมันตอกย้ำว่าฉันล้มเหลวในฐานะพ่อ! ฉันเสียใจที่ให้แกเกิดมา! แกคือความผิดพลาดที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตของฉัน! ฉันหวังว่าแกไม่น่าเกิดมาเลย!”

แล้วเขาก็เดินเลี่ยงผมไปก่อนจะย่ำเท้าขึ้นบันได “ทีนี้ก็ไสหัวออกไปจากบ้านฉันซะ ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอแกไป!”

คราวนี้ คำพูดของเขาช่างทิ่มแทงใจยิ่งกว่าคมมีด มันเจ็บปวดและเกินจะทานทนไหว

ผมยืนอยู่ตรงนั้นกลางห้อง รู้สึกสมเพชตัวเอง จมอยู่กับความสงสารตัวเอง ไม่น่ามาที่นี่เลย ผมรู้ดีว่าการมาที่นี่มันเป็นความผิดพลาด

ทำไมผมถึงไปคิดบ้าๆ ว่าในที่สุดเขาจะยอมรับผมได้นะ โง่ชะมัด แล้วก็น่าสมเพชสิ้นดี

แม่เข้ามาใกล้ “ลูกก็รู้ว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะลูกรัก ลูกก็รู้ว่าเขารักลูก... เขาแค่ต้องการเวลาหน่อย”

แล้วทันใดนั้น ความเศร้าทั้งหมดที่ผมรู้สึกก็แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยวในทันที เขากล้าดียังไง?!

“เหอะ เวลาเหรอ หกปีมันยังไม่นานพอใช่ไหมล่ะครับ” ผมระเบิดอารมณ์ ปลดปล่อยความเดือดดาลที่เก็บเอาไว้ทั้งหมดออกมา “รู้อะไรไหมแม่ ผมไม่ต้องการเขาแล้ว เขาจะไปตายที่ไหนก็ช่าง ผมไม่สน!”

“เฮนรี่!” แม่ตะโกน

“อะไรล่ะ!” ผมตะคอกกลับ “ผมมีเหตุผลมาตลอดไม่ใช่เหรอไง! ผมพยายามเข้าใจมาตลอด! ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งตอนที่ผัวเฮงซวยของแม่ไล่ผมออกจากบ้าน ผมก็ยังเข้าใจเพราะผมรู้ว่าเขารู้สึกยังไง ผมคิดว่าการให้เวลากับเขาจะทำให้เขาค่อยๆ ยอมรับในสิ่งที่ผมเป็นได้ แต่ผมคิดผิดถนัด! ผมไม่ต้องการการยอมรับโง่ๆ ของเขาอีกต่อไปแล้ว! เขาไม่มีลูกชายเหรอ เดาสิว่าผมก็ไม่มีพ่อเหมือนกัน! การมีเขาเป็นพ่อคือความเสียใจที่สุดในชีวิตของผม!” แล้วผมก็เดินไปยังบันได “หวังว่าคงได้ยินทั้งหมดนั่นนะ!”

แล้วผมก็เดินกระทืบเท้าออกจากบ้านไปอย่างหัวเสีย

“เฮนรี่!” แม่ตะโกน “กลับมานี่นะ!”

แต่ผมไม่คิดจะฟังอีกแล้ว การมาเยี่ยมครั้งนี้มันเป็นความผิดพลาด!

ผมกระแทกประตูปิดแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวไปตามถนนสู่ถนนใหญ่

ผมเรียกแท็กซี่คันหนึ่งให้ไปส่งที่สถานีรถไฟ ผมขึ้นรถไฟ และไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็กลับมาถึงลอสแอนเจลิส ที่ที่ผมอาศัยอยู่

ฟ้าเริ่มมืดแล้วและผมยังไม่รู้สึกอยากกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเอง

ผมยังคงรู้สึกโกรธ ผิดหวัง... และอาจจะมีความรู้สึกเสียใจนิดๆ บางทีผมไม่น่าพูดกับพ่อแบบนั้นเลย

ผมตัดสินใจไปที่บาร์เพื่อดื่มให้ลืมความเศร้าและความรู้สึกผิด

บาร์ของโทนี่คนแน่นตลอด ผมเลยตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่นั่น บางทีผมอาจจะได้ปาร์ตี้ให้ลืมความเศร้าและความรู้สึกผิดไปด้วย

แต่ที่น่าประหลาดใจคือ บาร์แทบจะร้าง

โทนี่กำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ รินเครื่องดื่มให้ลูกค้าคนหนึ่งตอนที่ผมเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้บาร์ เขาเป็นชาวเปอร์โตริโก ร่างสูง สง่างาม มีหนวดเคราเล็กน้อยบนใบหน้าหล่อเหลา

“โย่! ไงเพื่อน” เขาจับมือทักทายผมขณะเดินเข้ามา แล้วก็ยิ้มให้ผมอย่างเจ้าชู้ “มีอะไรเด็ดๆ ไหมจ๊ะ พ่อคนหล่อ”

“ก็มื้อค่ำสุดโรแมนติกกับเซ็กซี่สำหรับสองคนไง สนใจมาด้วยกันไหมล่ะ” ผมโปรยเสน่ห์กลับไปพร้อมรอยยิ้ม

เขาหัวเราะ “นายก็รู้ว่าฉันพร้อมรับข้อเสนอนั้นเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ วันไหนก็ตาม”

ผมกับโทนี่เคยเดทกันมาก่อน เขาเป็นคนดี ใช่ แต่เราแค่ไปกันไม่รอด ผมต้องการอะไรที่มากกว่าแค่ความสัมพันธ์ ผมต้องการคู่ชีวิต แต่เขาไม่อยากผูกมัดกับใครคนเดียว

ขณะที่เขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาและความชื่นชม ผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบและหัวใจเต้นระรัว เขามีอิทธิพลกับผมขนาดนี้เลย

“วันนี้ธุรกิจดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ” ผมพูดขึ้น พยายามทำลายความตึงเครียด “นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ”

เขายักไหล่ “ฉันว่าทุกอย่างมันก็ต้องมีครั้งแรกกันทั้งนั้นแหละ”

และแล้วในตอนนั้นเองก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาและนั่งลงข้างๆ ผม

ผมเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง และให้ตายสิ เขามีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาสุดๆ!

เขาร่างสูงใหญ่ ดูสมชายชาตรี มีเสน่ห์ กล้ามเป็นมัด ผิวเข้ม ไว้หนวดหนาและเคราสั้นที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ผมสีเข้มเป็นประกายของเขาถูกจัดทรงแบบรวบไว้ครึ่งหนึ่งโดยมีปอยผมหล่นลงมาปรกใบหน้า ส่วนด้านข้างก็ไถเกรียน

เขาสวมต่างหูห่วงสีทองและเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบๆ ที่อวดให้เห็นกล้ามแขนสวยๆ ของเขาได้อย่างง่ายดาย

ให้ตายสิ! ผู้ชายอะไรจะโคตรเท่ขนาดนี้!

หัวใจของผมไม่เคยเต้นระรัวให้ผู้ชายคนไหนเท่านี้มาก่อน

โทนี่เองก็ดูจะเคลิ้มไปกับเขาเหมือนกัน แล้วชายคนนั้นก็สั่งวิสกี้ออนเดอะร็อก

“ด-ได้ครับ” โทนี่พูดติดอ่างแล้วก็เดินจากไปเพื่อเตรียมเครื่องดื่ม

ชายสุดฮอตคนนั้นอาจจะสังเกตเห็นว่าผมกำลังจ้องเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความปรารถนา เพราะเขาหันมาสบตากับผม

วิญญาณผมแทบจะหลุดออกจากร่างตอนที่เราสบตากัน ดวงตาของเขาสีเหลืองอำพันและมีพลังสะกดจิตอย่างน่าหลงใหล!

แต่สิ่งที่เขาพูดต่อมาทำให้ผมประหลาดใจจนตั้งตัวไม่ติด เพราะดูยังไงเขาก็ไม่เหมือนเกย์ในสายตาผมเลย

“เอากันไหม”

“ห๊ะ?”

บทถัดไป